ตรวจ NIPT Test คัดกรองความผิดปกติทารกในครรภ์ คัดกรองเด็กดาวน์

ตรวจ NIPT คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารในครรภ์ ช่วยคุณแม่สามารถตรวจความผิดปกติของลูกได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ รวมถึง  NIPT Test ยังสามารถตรวจโครโมโซมเพศของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย

 

ตรวจ NIPT Test คัดกรองความผิดปกติทารกในครรภ์ คัดกรองเด็กดาวน์​
NIPT

การตรวจ NIPT Test คืออะไร

ตรวจ NIPT Test  หรือ Non-Invasive Prenatal Testing คือ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติของโครโมโซมที่อยู่ในทารก ตอนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ โดยวิธีการตรวจนั้นสามารถตรวจจากเลือดของมารดา โดยการวิเคราะห์ DNA ทารกที่อยู่ในกระแสเลือดของแม่  การตรวจ NIPT เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์น้อยมาก ถึงไม่มีเลย ซึ่งจะสามารถคัดกรองความเสี่ยงของทารกในครรภ์ที่อาจจะเกิดกลุ่มอาการดาวน์ กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด กลุ่มอาการพาทัวร์

ซึ่งอาการเหล่านี้ เป็นความผิดปกติที่เกิดจากจำนวนของโครโมโซมที่มีอยู่เกินจำนวนมา โดยจะทำการตรวจคัดกรองจากการเก็บเลือดของมารดาเพียงเล็กน้อย ซึ่งหลังจากที่เก็บเลือดไปแล้วจะสามารถทราบผลภายในระยะเวลา  7-10 วัน โดยคุณแม่ต้องมีอายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป

การตรวจ NIPT สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า เป็นการตรวจแบบ cell-free DNA testing เป็นการตรวจหาชิ้นส่วน DNA ของทารกและเนื้อทารกที่หลุดมาปะปนอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่ ซึ่งเป็นสาย DNA ที่ไม่ได้อยู่ภายในเซลล์โดยจะถูกเรียกว่า cell-free DNA (cfDNA) 

ในเลือดของคุณแม่นั้นจะมี cell-free DNA ของคุณแม่อยู่ประมาณ 90%  ส่วนที่เหลืออีก 10% นั้น จะเป็น cell-free DNA ของทารกและเนื้อรกหรือเรียกว่า Fetal cell-free DNA  ซึ่งมาจากส่วนเนื้อของรก ซึ่งจะมีความใกล้เคียงกับดีเอ็นเอของทารกสูง ดังนั้นหากทารกมีความผิดปกติก็จะสามารถตรวจพบได้ 

รู้หรือไม่ NIPT Test  ทำให้คุณแม่สามารถตรวจความผิดปกติของลูกในครรภ์ ได้ก่อนที่จะให้กำเนิด เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ กับทารกในครรภ์ โดยปกติคุณแม่หลายๆท่าน จะเลือกใช้การคัดกรองความเสี่ยงของทารกในครรภ์ ด้วยวิธีการทำอัลตร้าซาวด์  และอาจมีการทำร่วมกับการตรวจวัดระดับสารชีวเคมีบางตัว ที่อยู่ในเลือด

แต่ว่าการตรวจด้วยวิธีการวัดระดับสารชีวเคมีบางตัวในเลือดนั้น มีอัตราการพบความเสี่ยงที่จะเกิดกับทารกในครรภ์ประมาณ 85% เท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่ได้แม่นยำเท่าที่ควร จึงได้มีการพัฒนาการตรวจที่เรียกว่า NIPT Test หรือชื่อเต็มคือ Non-Invasive Prenatal Testing ซึ่งมีอัตราการตรวจพบประมาณ 99% แถมยังมีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์อีกด้วย

ตรวจ NIPT กี่สัปดาห์ถึงตรวจ

NIPT Test สามารถตรวจได้ตอนประมาณสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์  โดยอวัยวะภายในของทารกจะทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับสารอาหาร และขับของเสียผ่านสายรก ที่เชื่อมต่อกับแม่ ซึ่งจะมีส่วนของเศษ DNA ของทารถ ที่สามารถผ่านเยื่อบางๆ หรือ placental blood barrier เข้าไปในระบบเลือดของแม่ได้ ทำให้สามารถวิเคราะห์ถึงความผิดปกติของทารกที่อยู่ในครรภ์ได้

หากอายุครรภ์เกินกว่า 10 เดือนจะมีความแม่นยำมากขึ้น โดยจะสามารถตรวจได้ถึงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ แต่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ 12-14 สัปดาห์ 

  • อายุครรภ์ < 10 สัปดาห์ ไม่สามารถตรวจได้ เพราะ % fetal fraction ของลูก ไม่เพียงพอ
  • อายุครรภ์ 10 – 16 สัปดาห์ สามารถตรวจได้ และควรตรวจในช่วงนี้
  • อายุครรภ์ 16 – 20 สัปดาห์ สามารถตรวจได้ แต่ควรรีบเข้ารับการตรวจเพราะอายุครรภ์เยอะ
  • อายุครรภ์ > 20 – 30 สัปดาห์ สามารถตรวจได้ กับเฉพาะบางแลปแต่ไม่แนะนำ เพราะอาจเป็นเพียงการตรวจเพื่อทราบเท่านั้น
  • อายุครรภ์ > 30 สัปดาห์ ไม่สามารถตรวจได้

ทำไมต้องตรวจ NIPT

สถิติความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติของโครโมโซม  อายุของคุณแม่ก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ส่งผลต่อลูกได้เช่นกันโดยมีสถิติดังนี้

คุณแม่อายุ 20 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 1480 

คุณแม่อายุ 25 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 1250 

คุณแม่อายุ 30 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 840 

คุณแม่อายุ 35 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 356

คุณแม่อายุ 40 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 94 

คุณแม่อายุ 45 ปีมีอัตราการเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับโครโมโซมของลูกประมาณ 1 : 24

อ้างอิงจาก Hecht, C.A., & Hook, E. B. (1996). Rates of Down syndrome at livebirth by one-year maternal age intervals in studies with apparent close to complete ascertainment in populations of European origin: A proposed revised rate schedule for use in genetic and prenatal screening. American journal of medical genetics, 62(4), 376-385.

การตรวจ NIPT สามารถคัดกรองโรคใดได้บ้าง

ตรวจดูคู่โครโมโซมที่ผิดปกติเพื่อหาความเสี่ยงกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม

การตรวจ  NIPT Test สามารถตรวจคัดกรองและประเมินความเสี่ยงของทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาได้ ซึ่งอาจจะมีความผิดปกติของกลุ่มอาการดาวน์ กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด กลุ่มอาการพาทัวร์   ดังนี้

      • กลุ่มอาการดาวน์ Down Syndrome (Trisomy 21) เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 โครโมโซม ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติทางโครโมโซมที่พบได้บ่อยที่สุด ทารกจะมีศรีษะค่อนข้างเล็ก และแบน ห่างตาเฉียงขึ้น ดั้งจมูกแบน หูเกาะต่ำกว่าปกติ ปากเล็ก  ลิ้นมักยื่นออกมา อาจมีผนังกั้นห้องหัวใจรั่ว พัฒนาการช้า มีไอคิวค่อนข้างต่ำ 

      • กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด Edwards Sybdrome (Trisomy 18 ) จะเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 18 เกินมา 1 โครโมโซม ทารกจะมีศีรษะ และขากรรไกรเล็ก ใบหูอยู่ต่ำกว่าปกติ อาจมีอาการปากแหว่ง เพดานโหว่ นิ้วมือและเท้าบิดงอผิดรูป มีหัวใจและไตที่พิการ ปอดและทางเดินอาหารผิดปกติ ไอคิวต่ำปกติเด็กกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด มักเสียชีวิตภายในหนึ่งปี

      • กลุ่มอาการพาทัวร์ Patau Sybdrome (Trisomy 13 ) จะเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 13 เกินมา 1 โครโมโซม ส่งผลให้ทารกมีอาการปากแหว่ง เพดานโหว่ ตาเล็ก ใบหูต่ำ นิ้วมือนิ้วเท้าเกิน หูหนวก สมองพิการ และมักจะเสียชีวิตภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากคลอด
    กลุ่มอาการดาวน์สามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอยู่ในครรภ์

    จากทั้ง 3 กลุ่มอาการ กลุ่มอาการดาวน์ จะมีอัตราการตรวจพบได้เยอะกว่า กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด และกลุ่มอาการพาทัวร์ แต่กลุ่มอาการดาวน์นั้นจะมีความรุนแรงน้อยกว่า และทารกสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้โดยต้องมีความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง และจะมีโอกาสเสียชีวิตต่ำ เมื่อเติบโตขึ้นหากมีครอบครัวก็จะมีความเสี่ยงในการเกิดกลุ่มอาการดาวน์ได้เช่นกัน เนื่องจากมีการสืบทอดผ่านพันธุกรรม 

    การตรวจ NIPT นั้น Faest ตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิค Next GenerationSe-Quencing (NGS) ที่มีความแม่นยำสูง สามารถวิเคราะห์ผลได้แม่นยำมากกว่า 99 % ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก จาก College of American Pathologist; CAP, Clinical Laboratory Improvement Amendments; CLIA.

    นอกจากจะมีการตรวจในกลุ่มของอาการต่างๆแล้ว ยังสามารถตรวจความผิดปกติที่เกี่ยวกับโครโมโซมเพศได้อีกด้วย ซึ่งจะสามารถตรวจพบกลุ่มอาการเทอร์เนอร์ กลุ่มอาการทริปเปิลเอ็กซ์ ที่มักพบในเพศหญิง และกลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ ที่มักพบในเพศชายได้อีกด้วย 

    การตรวจเพื่อหากลุ่มอาการความผิดปกติโครโมโซมเพศ (Sex Chromosome)

    โครโมโซมเพศ (Sex Chromosome)​

    การตรวจ NIPT นอกจากจะสามารถตรวจกลุ่มอาการความผิดปกติของ โครโมโซมได้แล้ว ยังสามารถตรวจถึงความผิดปกติอื่นๆอีกได้อีก ได้แก่ สามารถตรวจถึงเพศ และกลุ่มอาการความผิดปกติของโครโมโซมเพศได้อีกด้วย โดยความปกติผิดปกติของโครโมโซมเพศ จะมีกลุ่มอาการเทอร์เนอร์ กลุ่มอาการทริปเปิลเอ็กซ์ และกลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ ดังนี้

        • กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ Turner Syndrome พบในเพศหญิง ที่มีโครโมโซมเพศเป็น XO คือโครโมโซม X ขาดหายไปหนึ่งแท่ง ผู้ป่วยจะมีลักษณะรูปร่างเตี้ย คอสั้น และมีผังผืด หน้าอกกว้าง หัวนมเล็ก และอยู่ห่างกันใบหูมีรูปร่างผิดปกติ ทั้งยังส่งผลให้มีรังไข่ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีประจำเดือน และอาจเกิดภาวะมีบุตรยาก

        • กลุ่มอาการทริปเปิลเอ็กซ์ Triple X Syndrome พบในเพศหญิง ที่มีโครโมโซม X เกินมาหนึ่งแท่ง ผู้ป่วยมักไม่มีความผิดปกติรุนแรง แต่อาจมีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์คือ เป็นหมัน รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น ไตทำงานผิดปกติ อาการชัก ระดับของสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ สมาธิสั้น พัฒนาการทางภาษา และทักษะการพัฒนากล้ามเนื้อช้า

        • กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ Klinefelter Syndrome กลุ่มอาการนี้สามารถพบได้ในเพศชาย ที่มีโครโมโซม X เกินมาจากปกติ เช่น xXy, XXxy ผู้ป่วยจะมีอัณฑะเล็ก เป็นหมัน มีรูปร่างของร่างกายคล้ายเพศหญิง คือสะโพกผาย หน้าอกโต เสียงแหลม แขนขายาวกว่าปกติ รวมถึงอาจมีพัฒนาการทางด้านสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์

      การตรวจ NIPT สามารถตรวจได้ในทุกรูปแบบของการตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์ธรรมชาติ ครรภ์แฝด ครรภ์จากการทำเด็กหลอดแก้ว ครรภ์จากการอุ้มบุญ แม่สามารถตรวจได้ในกลุ่มคุณแม่ที่มีอายุมาก ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปอาจ ซึ่งจะมีความเสี่ยงในการ เกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์ได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุน้อย แต่ในกลุ่มคุณแม่อายุน้อย ก็สามารถพบความปกติจากการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม  แต่อาจจะมีอัตราที่น้อยกว่า ดังนั้นควรตรวจหาความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและเพื่อครอบครัวของทุกท่าน

      ข้อดีของการตรวจ NIPT กับ Faest

      ตรวจ NIPT Test กับ Faest

      ทางเราเป็นบริษัทที่มาจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีความชำนาญในเรื่องของการแพทย์แบบเฉพาะเจาะจง ด้านเทคนิคและใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เกี่ยวกับรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ของคนเอเชีย 

      จากการวิเคราะห์จีโนม หรือพันธุกรรมของคนเอเชีย จำนวน 100,000 รายตั้งแต่ปี 2559 ครอบคลุม 219 ชาติติพันธ์ จาก 64 ประเทศ ทำให้การวิเคราะห์นั้นมีความแม่นยำสูง และมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีผ่านการรับรองมาตรฐานโลกจาก College of American Pathologist; CAP,  Clinical Laboratory Improvement Amendments; CLIA. จึงทำให้การตรวจ NIPT กับ Faest มีข้อดีดังนี้

          • มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานโลกจาก College of American Pathologist; CAP,  Clinical Laboratory Improvement Amendments; CLIA. 

          • แม่นยำ ตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิคNext GenerationSe-Quencing (NGS) ที่สามารถวิเคราะห์ผลได้แม่นยำมากกว่า 99 %

          • รวดเร็ว ใช้เวลาในการตรวจผลวิเคราะห์ และ รายงานผลภายใน 7-10 วันทำการ

          • ง่าย เจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจวิเคราะห์ ปริมาณเพียงแค่ 10 ml

          • สะดวก สามารถจองผ่านโทรศัพท์ได้

          • ช่วยเหลือ มีการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเจาะน้ำคร่ำ ตามจริงในกรณีที่ผลการตรวจมีความเสี่ยงสูง

        การตรวจ NIPT มีความแม่นยำแค่ไหน?

        ตรวจ NIPT มีความแม่นยำมากถึง 99% ในการตรวจหาความเสี่ยงของทารกในครรภ์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำมากเมื่อเทียบกับการตรวจคัดกรอกอื่นๆ

        ขั้นตอนการตรวจ NIPT กับ Faest

        • พยาบาลจะซักประวัติของคุณแม่เบื้องต้นก่อน
        • พยาบาลจะ ดูความผิดปกติคร่าวๆ โดยพาไปชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เสร็จแล้วจึงเขาพบแพทย์ที่ทาน ประวัติความผิกปกติของโครโมโซมไหม ประวัติโรคพันธุกรรมของคนในครอบครัว
        • เจาะเลือด และนำไปตรวจ NIPT เพื่อหาความผิดปกติ
        • รอผลตรวจ ประมาณ 10-14 วัน หรือน้อยกว่านั้นแล้วแต่ประเภทของการตรวจ

         

        การตรวจ NIPT  มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสำหรับคุณแม่ไม่ต้องเตรียมตัวมากมาย เพียงแค่เดินทางมายังโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อทำการเจาะเลือด โดยคุณหมอหรือเจ้าหน้าที่เจาะเลือดจะเก็บตัวอย่างเลือดจากคุณแม่ในปริมาณ 7-10 cc ซึ่งคุณแม่ไม่มีความจำเป็นต้องงดน้ำ หรืองดอาหารใดใด ก่อนเจาะเลือด 

        โดยในการตรวจ NIPT นี้ คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่เข้ารับการตรวจในช่วง 10-18 สัปดาห์ ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวอย่างเลือดที่ได้จะมี DNA ของลูกน้อยปะปนอยู่ในเลือดของคุณแม่ในปริมาณที่มากพอต่อการนำไปวิเคราะห์ และเป็นช่วงที่คุณแม่ทราบผลตรวจได้รวดเร็วพอที่จะตัดสินใจเพื่อดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไป

        การตรวจ NIPT Test ทำงานอย่าไร

        ในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ รกที่อยู่ในครรภ์นั้นจะปล่อยชิ้นส่วนของ DNA  ในปริมาณเพียงเล็กน้อยปนมากับกระแสเลือดของคุณแม่ ทำให้วิธีการตรวจด้วยการใช้เลือดของคุณแม่นั้นมีความแม่นยำ เพราะตัวเลือดของคุณแม่มีทั้ง DNA ที่มาจากรกและ DNA ของคุณแม่อยู่ร่วมกัน การตรวจเพื่อหาความเสี่ยงของความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 คู่ที่ 18 และคู่ที่ 13 นั้น สามารถวิเคราะห์ได้จากปริมาณชิ้นส่วน DNA ของรกในกระแสเลือดได้ 

        คุณแม่ที่เหมาะกับการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์

          • สามารถตรวจได้ในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในทุกรูปแบบ เช่น การตั้งครรภ์แบบธรรมชาติ ครรภ์แฝด ครรภ์จากเด็กหลอดแก้ว ครรภ์จากการอุ้มบุญ

          • คุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 10 สัปดาห์ขึ้นไป

          • คุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป (เนื่องจากมีอัตราเสี่ยงสูงในการที่ ลูกในครรภ์จะมีความผิดปกติของโครโมโซม)

          • คุณแม่ที่ทำอัลตราซาวด์แล้วพบว่าทารกในครรภ์มีความผิดปกติ ซึ่งอาจจะมีโครโมโซมที่ผิดปกติ

          • คุณแม่ที่มีประวัติตั้งครรภ์และมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ที่เคยคอดบุตรคนก่อนเป็นดาวน์ซินโดรม

          • กรณีที่คุณแม่ และคุณพ่อมีความผิดปกติของโครโมโซม

          • คุณแม่ หรือคุณพ่อที่มีประวัติครอบครัวเป็นดาวน์ซินโดรม

        คุณแม่ที่ไม่เหมาะกับการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์

          • คุณแม่ที่ได้รับเลือด จากการบริจาค ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา

        การอ่านค่าผลของการ ตรวจโครโมโซม มีอะไรบ้างและหมายความว่าอย่างไร

        การอ่านค่าผลของการ ตรวจโครโมโซม
        • Low risk (ความเสี่ยงต่ำ) 

        หมายความว่า ทารกน้อยของคุณ มีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดความ ผิคปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21, 18 และ 13 ซึ่งการตรวจ NIPT FAEST ไม่ได้เป็นการตรวจแบบวินิจฉัย แต่เป็นการตรวจเพื่อคัค กรองสำหรับความผิดปกติบางประเภทเท่านั้น 

        • High risk (ความเสี่ยงสูง) 

        หมายความว่า ทารกน้อยของคุณ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความ ผิคปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21, 18 และ 13 คู่ใดคู่หนึ่งที่ได้ตรวจไป แต่ไม่ได้แปลว่าทารกน้อยของคุณมีความผิดปกติแน่นอน ควร ปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับการตรวจเพื่อยืนยันผลด้วยวิธีตรวจ อื่นๆ เช่น การตรวจเจาะน้ำคร่ำ หรือ การตรวจชิ้นเนื้อรก เพิ่มเติมว่าทารกน้อยของคุณมีภาวะความผิดปกติดังกล่าวหรือไม่ 

        • no result (ไม่ได้ผลลัพธ์) 

        เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก เนื่องจากดีเอ็นเอของทารกที่พบอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่มีไม่เพียงพอสำหรับการตรวจวิเคราะห์ รวมถึงขั้นตอนการเก็บตัวอย่างเลือดและอายุครรภ์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ต้องเก็บตัวอย่างเลือดใหม่อีกครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

        แพคเกจ NIPT Test

        สามารถเลือกตรวจได้ 3 แพ็กเกจ

        • FAEST5 คู่ 

        ตรวจโครโมโซมคู่หลัก 21 18 13 X Y รวมความผิดปกติของโครโมโซมเพศ พร้อมmราบเพศ ความแม่นยำ 99% 

        • FAEST23 คู่ 

        ตรวจครบทุกโครโมโซม 1-22 รวม 5 คู่หลัก และ ความผิดปกติของโครโมโซมเพศพร้อมทราบเพศ ความแม่นยำา 99% 

        • FAEST Twin 

        ตรวจโครโมโซมคู่หลัก 21 18 13 Y พร้อมทราบเพศ ความแม่นยำ 99%

        Copyright © 2022 by Bangkok Molecular Genetics. All Rights Reserved.